ต้อง 3 แต้ม,ลุ้น เจอร์ราร์ด สร้างปาฏิหาริย์! 5 ประเด็นก่อนเกมลิเวอร์พูลรับวูล์ฟส์ 

เข้าสู่เกมสุดท้ายของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กันแล้ว และการลุ้นแชมป์ยังคงเข้มข้นระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดย

1. ซาลาห์ อาจไม่ได้ลงเล่นเกมสุดท้ายลีก

โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง

ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าจะทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูล หลายคนใจหายใจคว่ำกันเลยทีเดียว เมื่อ คล็อปป์ ออกมาบอกเองว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อาจจะไม่พร้อมลงสนามในเกมรับมือ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ

quot;บังโมquot; มีลุ้นที่จะคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดประจำลีกในฤดูกาลนี้ โดยทำไปแล้ว 22 ประตู แต่สุ่มเสี่ยงที่จะโดนแซงเนื่องจากตอนนี้ ซน ฮึง-มิน กองหน้า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไล่จี้มาติดๆ ที่ 21 ประตู และเกมสุดท้าย quot;ไก่เดือยทองquot; ดวลกับ นอริช ซิตี้ บอกเลยว่ามีโอกาสสูงที่ quot;อาซนquot; จะยิงประตูได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ย้ำชัดเจนว่าถ้าหาก ซาลาห์ ไม่ฟิตสมบูรณ์เต็มร้อย เขาก็ไม่เสี่ยงที่จะส่งนักเตะลงสนามแม้มันอาจจะทำให้ quot;คิง ออฟ อียิปต์quot; ต้องพลาดได้รางวัล quot;รองเท้าทองคำquot; ก็ตาม แต่มันอาจจะแลกมากับการต้องเจ็บซ้ำ

แน่นอนว่า ซาลาห์ เข้าใจกรณีนี้เป็นอย่างดี เพราะเขากับเพื่อนร่วมทีมยังเหลืออีกเกมที่สำคัญมากๆ นั่นก็คือนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และถ้าต้องมาได้รับบาดเจ็บในเกมกับ วูล์ฟส์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก หรือเปล่า สู้เลือกพักรักษาร่างกายให้ฟิตเต็มร้อย และไปลุ้นความสำเร็จในถ้วยใบโตยุโรปดีกว่า

โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง

2. ลุ้น ฟาน ไดค์ – ฟาบินโญ่ น่าจะยาก

โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง

สำหรับการฝึกซ้อมล่าสุด ซาลาห์ กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ สามารถกลับมาลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว แต่ก็อย่างที่คล็อปป์ ได้พูดเกริ่นไปแล้วว่า quot;บังโมquot; หากไม่ฟิตเต็มร้อยก็คงไม่เสี่ยงส่งลงสนาม เช่นเดียวกับ ฟาน ไดค์ เพราะถ้าหากเกิดพลาดพลั้งเจ็บซ้ำมันจะยุ่งไปกันใหญ่

ในขณะที่ ฟาบินโญ่ ไม่ได้เดินทางมาร่วมซ้อมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเขาคงพลาดลงสนามในเกมส่งท้ายลีกวันอาทิตย์นี้ ซึ่งก็ถือว่าน่าเสียดายอย่างมาก เพราะห้องเครื่องชาวบราซิเลียน เป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญที่ทำให้ทีมมีลุ้นแชมป์ลีกในเวลานี้

อย่างไรก็ตามในส่วนของคู่เซนเตอร์แบ็กเชื่อว่า คล็อปป์ สามารถฝากความหวังเอาไว้กับ โฌแอล มาติป และ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ซึ่งทั้งคู่ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในเกมล่าสุดที่บุกไปคว้า 3 คะแนนออกมาจากถิ่นของเซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อกลางสัปดาห์นี้

สำหรับแผงมิดฟิลด์ จอร์แดน์ เฮนเดอร์สัน ต้องรับบทบาทโฮลดิ้งมิดฟิลด์อีกครั้ง ส่วนจอมปั้นเกมอย่าง ติอาโก้ อัลกันทาร่า จะเป็นผู้เล่นสำคัญในการที่จะสร้างสรรค์เกมรุกให้กับ quot;หงส์แดงquot; ความมหัศจรรย์ของเขาจะช่วยเพิ่มความหลากหลายในแดนกลางให้กับทีม ขณะที่อีกรายน่าจะเป็น นาบี เกอิต้า ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักเช่นเดียวกัน

ฉะนั้นแมตช์นี้ขุมกำลังที่มีอยู่ของ คล็อปป์ น่าจะเพียงพอสำหรับการดวลกับ วูล์ฟส์ แต่ประเด็นสำคัญก็คือเรื่องสภาพจิตใจ เพราะถ้าหากทีมมัวแต่คิดถึงผลการแข่งขันที่เอติฮัด สเตเดี้ยม อาจจะนำไปสู่การเล่นที่ผิดพลาดก็ได้ ซึ่งนี่เป็นประเด็นสำคัญที่ คล็อปป์ ต้องเตือนลูกทีมให้มีสมาธิกับเกมของตัวเองเท่านั้น

อย่าลืมว่าถ้า แอสตัน วิลล่า แย่งแต้มมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แต่ quot;หงส์แดงquot; ดันทำแต้มหลุดมือในเกมกับ วูล์ฟส์ งานนี้ต้องเขกกะโหลกตัวเองสถานเดียว !!!

3. แข้งวูล์ฟส์อันตรายห้ามประมาท

วูล์ฟแฮมป์ตัน ถือเป็นทีมที่มีนักเตะฝีเท้าจัดจ้านอยู่ในสโมสรหลายคน อย่างเช่น รูเบน เนเวส, ราอูล ฆิมิเนซ, เปโดร เนโต้ และ ชูเอา มูตินโญ่ เป็นต้น ดีที่ อดาม่า ตราโอเร่ ย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า แบบยืมตัว ไม่งั้นแนวรับเจ้าบ้านคงต้องเหนื่อยในการรับมือกับพวกเขาแน่นอน

นักเตะเหล่านี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมภายใต้การกุมบังเหียนของ บรูโน่ ลาช พวกเขามักจะเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเวลาที่พบกับทีมใหญ่ๆ โดย ลิเวอร์พูล ต้องต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาดมาแล้วในการพบกับ วูล์ฟส์ เกมแรกเพราะกว่าจะได้ประตูชัยต้องรอถึงช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย จากการยิงของมหาเทพ โอริกี้ !!

ผู้เล่นที่ต้องบอกว่าอันตรายอย่างมากก็คือ เนเวส ซึ่งเป็นตัวปั้นเกมในแดนกลางที่สุดยอดของทีมเยือน ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเขาทำให้ได้รับความสนใจจากหลายๆ ทีมชั้นนำ โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่้จ้องตาเป็นมันอยากดึงตัวไปเสริมแกร่งให้ดี

แม้ว่าผลงาน 6 เกมหลังสุดในลีก วูล์ฟส์ จะสะกดคำว่าชนะไม่เป็นก็ตาม แต่อย่าลืมว่านี่เป็นแมตช์สุดท้าย และแรงกระตุ้นสำคัญก็คือถ้าหากพวกเขาคว่ำ ลิเวอร์พูล คาถิ่นแอนฟิลด์ได้แถมทำให้พวกเขาชวดแชมป์ลีก ก็คือเป็นการของขวัญชั้นดีให้กับแฟนบอล quot;หมาป่าquot; เลยทีเดียว

4. ความหวังของ quot;เดอะ ค็อปquot; อยู่ที่ตำนาน

สตีเว่น เจอร์ราร์ด ต้องนำทัพ แอสตัน วิลล่าบุกเยือนถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยมแน่นอนว่านี่ไม่ใช่เกมที่ง่ายเลยสำหรับ ตำนานกัปตันทีม quot;หงส์แดงquot; ที่จะคว้าแต้มออกมาจากเอติฮัด สเตเดี้ยม เพราะด้วยขุมกำลังและศักยภาพทีม รวมทั้งประสบการณ์ในการคุมทัพของ quot;สตีวี่จีquot; ยังคงเป็นรอง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หลายขุม

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเกมสุดท้าย และเป็นแมตช์ที่มีความหมายอย่างยิ่งทั้งกับ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ฉะนั้น เจอร์ราร์ด แอนด์ โค. คงหวังที่จะทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อให้แฟนบอล quot;สิงห์ผงาดquot; ที่ตามไปเชียร์มีความสุขส่งท้ายซีซั่น

ก่อนหน้านี้ เจอร์ราร์ด ก็เป็นคนออกมาพูดเองว่าเป้าหมายในการไปเยือน quot;เรือใบสีฟ้าquot; คือทำผลงานให้ดีที่สุด และถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้แต้มในแมตช์นี้ไม่ใช่เพื่อ quot;เดอะ เร้ดส์quot; เเต่เพื่อให้ทีมมีโอกาสขยับอันดับดีกว่าตำแหน่งปัจจุบันที่อยู่อันดับ 14 ส่วนหากผลพลอยได้ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับทีมรักไป

ไม่รู้ว่าสาวก quot;เดอะ ค็อปquot; จะคิดไปเองหรือเปล่า แต่เหมือนเกมนี้โชคชะตาฟ้าลิขิตให้ เจอร์ราร์ด และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อดีตสองสตาร์ฮีโร่ของ ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้ที่ช่วยสานฝันให้กับพวกเขาได้ประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้

ลองนึกภาพถ้า เจอร์ราร์ด นำ วิลล่า บุกมาได้แต้มในเกมนี้ และ ลิเวอร์พูล ชนะ วูล์ฟส์ นั่นหมายความว่าโทรฟี่พรีเมียร์ลีกจะไปอยู่ที่แอนฟิลด์ทันที และเชื่อว่าภาพที่ quot;สตีวี่จีquot; ลื่นล้มจนทำให้ทีมอดได้แชมป์ลีกเมื่อปี 2013/2014 จะหายไปจากหัวของแฟนบอล quot;หงส์แดงquot; ทันที

ถ้าเป็นจริงแบบนั้นมันก็เหมือนฟ้าลิขิตให้ เจอร์ราร์ด ได้กลับมาแก้ไขสิ่งที่เขาค้างคาใจ และโทษตัวเองมาตลอดเมื่อ 8 ปีได้สำเร็จ เพราะนี่จะเป็นการปลดเปลื้องสิ่งที่ติดอยู่ในหัวใจของเขาออกไปจนหมดซะที!

5. เส้นทางสู่ 4 แชมป์จะยังได้ไปต่อหรือไม่

ตอนนี้โอกาสในการสร้างประวัติศาสตร์คว้า 4 แชมป์ยังคงมีอยู่ แม้ว่าจะไม่ได้เยอะเหมือนเมื่อช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่ายังพอมีหวังให้ลุ้นอยู่บ้าง เพียงแต่เงื่อนไขมันค่อนข้างจะยากมากๆ เท่านั้นเอง

ลิเวอร์พูล ต้องทำหน้าที่ของตัวเองเอาชนะ วูล์ฟส์ ให้ได้ และฝากความหวังของหมู่บ้านเอาไว้กับ แอสตัน วิลล่าที่จะสามารถต้านทานเกมรุกที่สุดโหดจัดปลัดบอกของพลพรรค quot;เรือใบสีฟ้าquot; ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม

ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดหวัง นั่นหมายความว่าเส้นทางการลุ้น 4 แชมป์ของพวกเขายังคงอยู่ แต่ถ้าไม่เป็นไปดั่งฝันก็ยังเหลือโทรฟี่ให้ลุ้นอีกรายการนั่นก็คือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะปะทะกับ เรอัล มาดริด ในช่วงปลายสัปดาห์หน้า

ไม่ว่า ลิเวอร์พูล จะจบฤดูกาลนี้ด้วยโทรฟี่แชมป์ 2 หรือ 3 หรือ 4 รายการก็ตาม แต่สาวก quot;เดอะ ค็อปquot; ต้องมีความสุขกับสิ่งที่พวกเขาได้รับ เพราะนี่คือความสำเร็จของทีม….แต่ก็นะในเมื่อมีหวังให้ลุ้น 4 แชมป์ก็ขอลุ้นกันยาวๆ ไปเลยละกัน

ทอมเม้ง


ดูข่าวต้นฉบับ