ศาลให้ประกันตัวแก๊งกระทืบคนแก่ แต่ท่าทีไร้สำนึก
ศาลให้ประกันตัวแก๊งกระทืบคนแก่ แต่ท่าทีไร้สำนึก

ตำรวจ สภ.สวนพริกไทย นำ 3 ผู้ต้องหาคดีรุมทำร้ายคนแก่กลางสี่แยก ไปฝากขังศาลจังหวัดปทุมธานี ก่อนศาลให้ประกันตัวในวงเงินคนละ 32,000 บาท เหตุติดต่อขอมอบตัวเอง แต่เสี่ยหมูผู้ลงมือไม่มีท่าทีสำนึกผิด ขณะถูกสื่อมวลชนสอบถามอยากขอโทษหรือไม่
พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจสวนพริกไทย คุมตัว”เสี่ยหมู” นายธันวาหรือบิ๊ก ทรัพย์สินไพบูลย์, นายไพโรจน์ หรือหมุด สีทอง, นายรามัญ หรือดำ คงแป้น 3 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายสมบัติ นิยมมาก อายุ 52 ปี บริเวณสี่แยก ซอยบริษัทกรุงเทพน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.สวนพริกไทย อ.เมืองปทุมธานี  จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา มาขออำนาจ ศาลจังหวัดปทุมธานี  เพื่อขอฝากขังครั้งแรก มีกำหนด 12 วัน แต่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวไปในระหว่างการสอบสวน  โดยตีราคาประกันคนละ 32,000 บาท
จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์คลิป เหตุการณ์กลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายชายวัยกลางคน เหตุเกิดในซอย ตม.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี โดยชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งได้จับคนขับรถเก๋งล็อกเอาไว้ ส่วนชายสวมเสื้อสีดำอีกคนได้รัวหมัดใส่ไม่ยั้ง ก่อนจะเตะซ้ำจนคนขับรถเก๋งล้มลงคล้ายหมดสติ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันออกสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุตามสถานที่ต่างๆ จนกลุ่มผู้ก่อเหตุทนต่อการถูกกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหวจึงได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีตามกฎหมายจำนวน 3 คน เท่านั้น ส่วน น.ส.นันท์นภัส ทิพย์กังวานวงศ์ ภรรยาของนายธันวา หรือบิ๊ก ทิพย์กังวานวงศ์  ไปร่วมงานแต่งงานของญาติ ที่จ.หนองบัวลำภู
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า โดยช่วงเกิดเหตุ นายสมบัติ ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ว่าในวันที่ 21 พ.ย. ได้นัดเจรจากับ นายธันวา หรือบิ๊ก เรื่องค้างค่าจ้างแรงงานของญาติ ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดปทุมธานี เมื่อตกลงและจ่ายเงินค่าจ้างกันเรียบร้อยแล้ว ก็ขับรถออกมาพร้อมภรรยาและลูก
ขณะขับรถถึงบริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว  นายธันวา ขับขี่รถยนต์ มากับ น.ส. นันท์นภัส และนายรามัญ ส่วนนายไพโรจน์ ขับขี่รถจักรยานยนต์  นำหน้ารถยนต์เก๋งผู้เสียหาย เมื่อถึงที่เกิดเหตุ นายไพโรจน์ ได้หยุดรถจักรยานยนต์ขวางรถของผู้เสียหาย จากนั้นนายธันวา ลงจากรถมากระชากประตูรถผู้เสียหาย ดึงตัวผู้เสียหายลงจากรถ ส่วนนายรามัญเดินเข้ามาจับล็อกแขนผู้เสียหายไว้ และนายธันวาได้ใช้หมัดชกและใช้เท้าแตะทำร้ายผู้เสียหายจำนวน ซึ่งจากการดูคลิป มีการต่อย 8 ครั้ง และเตะอีก 9 ครั้ง ผู้เสียหายล้มลงแล้วก็ยังเตะซ้ำอยู่ พฤติกรรมแบบนี้สังคมไทยเราไม่ได้ ภายหลังจากก่อเหตุผู้ก่อเหตุขับรถหลบหนีไป
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง แต่ยังมีบางราย ที่ให้การภาคเสธ โดยจาการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนั้น นายรามัญ หนึ่งในผู้ต้องหา เพิ่งพ้นโทษคดีทำร้ายร่างกาย จากเรือนจำมาได้ไม่นาน  ก็มาก่อเหตุซ้ำ สำหรับสาเหตุที่ก่อเหตุนั้น นายธันวา ม่พอใจและโกรธนายสมบัติ ผู้เสียหาย ที่ได้นำเรื่องค้างค่าจ่ายค่าแรงของญาตินายสมบัติพนักงานมาแจ้งกับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองปทุมธานี จึงได้ก่อเหตุดังกล่างขึ้น
ส่วนร้านอาหารอีสานของนายธันวา ตำรวจจะมีการขยายผลตรวจสอบว่ามีการเปิดร้านถูกต้องหรือไม่ รวมถึงแรงงานลูกจ้างในร้าน ว่าจ้างมาอยู่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ด้วย ส่วนการดำเนินคดี ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ก่อนนำตัวไปศาลจังหวัดปทุมธานี  โดยระหว่างที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย  ผู้สื่อข่าวพยายามสอบภามนายธันวา ว่าจะขอโทษผู้ต้องหาหรือไม่  ระหว่างขึ้นรถ แต่นายธันวามีท่าทางเกรี้ยวกราดพยายามเบียดสื่อมวลชน แล ไม่มีท่าทีสำนึกผิดกับสิ่งที่พวกตนก่อเหตุ

ดูข่าวต้นฉบับ

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here