แล้งวิกฤติ! ใบเสมาจมน้ำ 50 ปี โผล่เขื่อนอุบลรัตน์
ตะลึง! พบประตูโบสถ์ ใบเสมาหมู่บ้านเก่ากว่า 50 ปีโผล่ให้เห็นร่องรอย หลังน้ำลดบริเวณท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ ปริมาณน้ำเข้าขั้นวิกฤติเหลือประมาณร้อยละ 22

ตะลึง! พบประตูโบสถ์ หมู่บ้านเก่ากว่า 50 ปีโผล่ให้เห็นร่องรอย หลังน้ำลดบริเวณท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ ปริมาณน้ำเข้าขั้นวิกฤติเหลือประมาณร้อยละ 22 สัตว์น้ำ กุ้ง หอย ปู ปลาลดลง

วันที่ 2 ธ.ค.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปสำรวจดูสภาพปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู บริเวณเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งมีพื้นที่เก็บกักน้ำอยู่ในพื้นที่ของ อ.โนนสัง โดยพื้นที่บริเวณ เขื่อนอุบลรัตน์ตั้งแต่บริเวณด้านหน้าเขื่อนและช่วงบริเวณจุดชมวิวช่องเขาขาดของอุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ ช่วงหมู่บ้านท่าศิลา ต.บ้านค้อ อ.โนนสัง ทำให้มองเห็นสภาพของน้ำเหลือไม่ถึงครึ่ง และเห็นสภาพหาดทรายเป็นทางยาว พบเห็นสภาพพื้นดอนของพื้นดินที่ระดับน้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัดนอกจากนั้นในพื้นที่ของ ต.โคกใหญ่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู สังเกตเห็นสภาพพื้นดินเดิมของหมู่บ้าน พร้อมเสาเสมาของวัดเก่าหมู่บ้านที่จมอยู่ใต้น้ำร่วม 50 ปี

เขื่อนอุบลรัตน์ เริ่มมีการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ 2507 และสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2509 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จ พระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตน์ราชกัญญาฯ ไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนอุบลรัตน์ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2509 โดยสภาพปัจจุบันเขื่อนอุบลรัตน์กำลังประสบกับระดับน้ำที่มีน้อยและลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง และข้อมูลสถิติของจาก ระดับน้ำในเขื่อนเหลืออยู่ที่ร้อยละ 22 ของระดับเก็บกัก คือ 540 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเขื่อนอุบลรัตน์สามารถเก็บกักน้ำได้ที่ 2,431 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งระดับน้ำที่ลดลงทำให้เห็นชายหาดที่ทอดยาวจากระดับน้ำที่เคยมี ลาดยาวลงมาเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านริมเขื่อนเปลี่ยนไป

ด้าน นายมานิตย์ เถาพันธ์ อายุ 47 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกใหญ่ หมู่ 1 ต.โคกใหญ่ อ.โนนสัง ได้นำพาผู้สื่อข่าว ออกสำรวจดูสภาพพื้นที่ทั้งบริเวณรอบริมเขื่อนและนั่งเรือออกสำรวจดูสภาพพื้นที่ ของน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ พบว่า ร่องรอยหลังน้ำลด เมื่อขับรถออกจากหมู่บ้านมาตามชายหาดประมาณ 3 กม. ทำให้ได้เห็นบริเวณที่เป็นหมู่บ้านโคกใหญ่ตั้งแต่ก่อนที่น้ำเขื่อนจะท่วม และจากการสอบถามกับผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้านทราบว่า ก่อนที่จะต้องอพยพจากย้ายจากการสร้างเขื่อนไปอยู่ในหมู่บ้านปัจจุบัน ตั้งแต่เริ่มสร้างเขื่อนได้พบกับฐานตอม่อที่ตั้งโรงสีของหมู่บ้าน จมอยู่ในน้ำมาตั้งแต่สร้างเขื่อน ทำให้เห็นว่าบ้านโคกใหญ่สมัยก่อนมีความเจริญถึงขนาดมีโรงสีขนาดกลางในหมู่บ้านและเป็นแหล่งการเกษตรปลูกข้าวที่สำคัญอีกแหล่งหนึ่ง

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวนั่งเรือออกจากชายหาด ที่อยู่ห่างจากบริเวณที่พบฐานตอม่อโรงสี ประมาณ 1 กม. ก็พบกับซุ้มประตูโบสถ์วัดพุทธิสินชัย บ้านโคกใหญ่ ซึ่งเคยพบเมื่อปี 2535 จากการที่เขื่อนปล่อยน้ำลดระดับน้ำลงไม่ได้เกิดจากปัญหาความแห้งแล้งเหมือนปีนี้ ปีนี้ไม่มีน้ำเหนือไหลเข้าสู่เขื่อนเหมือนทุกปี แต่หลังจากนั้นมาก็ไม่พบอีกจนกระทั่งปีนี้สภาพน้ำภายในเขื่อนลดลงจนเป็นไม่มีน้ำเติมลงมาในเขื่อน จึงพบซุ้มประตูโบสถ์วัดอีกครั้ง โดยระดับน้ำบริเวณโบสถ์นี้อยู่ที่ 5 เมตร สามารถไปยืนอยู่ที่คานโบสถ์ได้ทั้งนี้การพบซุ้มประตูโบสถ์และฐานตอม่อโรงสีข้าว แสดงให้เห็นชุมชนโคกใหญ่สมัยก่อนมีความเจริญและมีพื้นที่หมู่บ้านกว้างใหญ่

จะอย่างไรก็ตามจากสภาพน้ำที่ลดต่ำลงทำให้สัตว์น้ำทั้งหอยปูปลา มีปริมาณลดน้อยลงชาวบ้านที่ทำประมงหาปลาก็ประสบปัญหา ต้องเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น โดยเฉพาะหอยกาบ บริเวณริมเขื่อนแต่ก่อนจะมีมาก ชาวบ้านจะไปงมมาเป็นอาหารพื้นที่ไม่เกินสองเมตรก็จะได้หอยมาพอเป็นอาหารแล้ว แต่ตอนนี้หอยกาบพวกนี้ก็หายไป ตายไป ไม่เหลือเลย ในช่วงที่มีน้ำริมพื้นที่เขื่อนจะมีแหน สาหร่ายเต็มตอนนี้ก็เหลือแต่หาด ส่งผลกระทบต่อชีวิตชาวบ้านเปลี่ยนไป

ดูข่าวต้นฉบับ

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here