ศาลปค.สูงสุดพิพากษายืน สั่งเมีย-ลูก “สมัคร สุนทรเวช” ชดใช้ 587 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย โดยไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอด ปมทุจริตจัดซื้อรถเรือดับเพลิงกทม.

โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง

วันนี้ (16มิ.ย.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนสั่งให้คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภรรยานายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนางกาญจนากร ไชยลาโภ นางกาญจนาภา มุ่งถิ่น บุตรสาว ในฐานะทายาทของนายสมัคร รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 587,580,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย 53-วันที่ 10 เม.ย. 64และดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปีหรืออัตราดอกเบี้ยใหม่ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาซึ่งออกตามความในมาตรา 7 วรรค 2 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.64 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จโดยให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนภายใน 60 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด ทั้งนี้หากคดีที่กรุงเทพฯฟ้องบริษัทสไตล์เออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จํากัด ประเทศออสเตรีย ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายเรียกทรัพย์คืนตามคดีหมายเลขดำที่กค.155/2552 โดยศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้คู่กรณีกับคืนสู่ฐานะเดิม หรือคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของ ICC มีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้คู่กรณีตกลงกันด้วยดีทำให้ค่าความเสียหายลดลงเพียงใด ก็ให้ทายาททั้ง 3 รับผิดตามอัตราส่วนตามที่ศาลกำหนดให้นายสมัครรับผิดชอบเพียงนั้นทั้งนี้ทายาททั้ง 3 ต้องรับผิดต่อกรุงเทพฯเพียงไม่เกินทรัพย์มรดกของนายสมัครที่ตกทอดแก่ตน

โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทั้งนี้กรณีดังกล่าวกรุงเทพมหานคร ได้ยื่นฟ้องบุคคลทั้ง 3 ให้ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่นายสมัครต้องรับผิดชอบจากกรณีการทุจริตในโครงการจัดซื้อเรือและรถดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานครกับบริษัทสไตล์เออร์ เมื่อปี47-48 ซึ่งกระทรวงการคลังกำหนดให้นายสมัครซึ่งเป็น 1 ใน 6ของผู้ร่วมกระทำผิดต้องรับผิดชดใช้เป็นเงิน 956,931,442 บาท

ส่วนเหตุผลที่ศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ทายาททั้ง3ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีนายสมัครก็ทำละเมิด ระบุว่า การที่นายสมัครในฐานะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งมีอำนาจหน้าที่บริหารราชการของกรุงเทพมหานครให้เป็นไปตามกฎหมายมาตรา 49(1)พรบระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร 2528 และเป็นผู้มีอำนาจสั่งซื้อตามข้อ 5 ของข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องการพัสดุ 2538 ได้ทราบถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดซื้อตามที่พล.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เสนอเรื่องผ่านคุณหญิงณัฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานครขณะนั้น เพื่อให้พิจารณามาโดยตลอดแต่ไม่ได้มีการตรวจสอบหรือทักท้วงถึงการกระทำดังกล่าวและยังคงอนุมัติให้กรุงเทพมหานครจัดซื้อการกระทำของนายสมัครจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและถือเป็นการกระทำละเมิดต่อกรุงเทพมหานครตามมาตรา 420 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยเมื่อความเสียหายที่กรุงเทพมหานครได้รับ เกิดจากการจัดซื้อที่ไม่เป็นไปตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องการพัสดุ 2538 ทำให้ราคาที่ซื้อสูงเกินจริงเป็นเงินจำนวน 1,958,600,000บาท และการจัดซื้อยังมีผู้เกี่ยวข้องหลายรายจึงสมควรกำหนดสัดส่วนความรับผิดชอบของนายสมัครโดยเทียบเคียงแนวทางการกำหนดสัดส่วนความรับผิดชอบของกระทรวงการคลังตามหนังสือกระทรวงการทางด่วนที่สุดที่กค.0406.2/ว.66ลงวันที่ 25 ก.ย. 50 ที่กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาขั้นสูงหรือผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อรับผิดกรณีไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือระเบียบด้านการจัดซื้อจัดจ้างเนื่องจากกำหนดราคาสูงกว่าความเป็นจริงโดยให้รับผิดในอัตราร้อยละ 30 ของมูลค่าความเสียหายเมื่อในสมัครเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกรุงเทพมหานครและเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อจึงสมควรต้องรับผิดต่อกรุงเทพฯในอัตราร้อยละ 30 ของความเสียหายจากเงินจำนวน1,958,600,000บาทคิดเป็นเงินที่ต้องรับผิด587,580,000บาท และเมื่อความรับผิดอันเกิดจากการกระทำละเมิดของนายสมัครต่อกรุงเทพมหานครเป็นความรับผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินเป็นเงิน มิใช่ความรับผิดซึ่งตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้วเป็นการเฉพาะตัวของนายสมัครผู้ตายโดยแท้ดังนั้นบุคคลทั้ง 3 ในฐานะทายาทโดยธรรมของนายสมัครจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน587,580,000บาทให้แก่กรุงเทพมหานครโดยไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอดให้แก่ตนทั้งนี้ตามมาตรา 1600 และมาตรา 1601 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO


ดูข่าวต้นฉบับ